วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

Oishi buffet ที่สุดของอาหารคุณภาพ

Oishi ชื่อนี้ใครๆก็เคยได้ยินแต่จะมีสักกี่ท่านที่กล้าลอง

เส้นทางในการเดินทาง อยู่ในห้างแฟชั่นไอซ์แลน ชั้นล่างสุดของห้างทางด้านทิศตะวันตกของห้าง

วันนี้ว่างๆ เลยตะลอนไปทั่วกรุงเพื่อจะหาอะไรมาลองที่ประมาณว่าทานแล้วคุณภาพคับแก้วเลยไปเดินเล่นหาของอร่อยๆทานที่แฟชั่นไอซ์แลน กว้างพอสมควรเลยที่นี่ ตอนแรกก็กะจะไปลองเมนูใหม่ที่ SIZZLER ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดติดกับโรงหนังฝั่งตะวันตกของห้าง แต่ก็เดินดูของเพลินๆ จนลงมาถึงชั้นล่างสุดก็มาสะดุดตากับร้าน Oishi buffet ถึงกับต้องเดินดิ่งๆเข้าไปลองกันเลยทีเดียวกับราคาที่ไม่แพงหากเทียบกับคุณภาพอาหาร ซึ่งคิดรายหัวๆละ 500 ต้นๆ กับเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ ข้างในนั้นจะมีอะไรให้เราได้ลองกันบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ


การตกแต่งร้านของ Oishi buffet บอกได้คำเดียวว่าสวยมากๆเลย ทั้งลวดลายข้างฝนัง โต๊ะทางอาหาร เก้าอี้ที่เรานั่งดูลงตัวไปหมดทุกอย่าง ผู้คนคับคั่ง ต่างก็ก้มหน้าก้มตาทานอาหารที่ไปตักมาอย่างมีความสุข แรกๆเข้าไปก็ยังขอนั่งดู
เค้าไปก่อนว่าอะไรที่เค้าไปเอามาทานกันบ่อยๆอันนั้นแหล่ะเมนูแรก อิอิอิ

ดูมาสักพักก็ขอออกโรงบ้างละค่ะ โหตาลายเลยเยอะมาก เมนูมีหลากหลายมากๆ พนักงานแนะนำว่าเวลาไปตักอาหารให้เอาตัวคริปที่วางไว้ที่โต๊ะติดไปด้วย กรณีเราต้องการสั่งอาหารประเภท ชาบู หรือ ปิ้งย่าง แม้กระทั่งอาหารญี่ปุ่นบางประเภท เช่น เทมปุระ แคริฟอเนียโรล เป็นต้นค่ะ

มุมนี้ช๊อปชอบแวะมาดูบ่อยมากๆ เป็นปลาดิบประเภทต่างๆ และ ยำ กับอย่างอื่นอีกมากมายบรรยายไม่หมดอ่ะ แต่ว่าอร่อยทุกเมนูเลยที่เราไปตักมาลองอ่ะนะ หรือว่าเราจะหิว เหอๆๆๆ แต่อันนี้ก็ต้องไปลองกันเองแล้วล่ะ เรามาลองดูหน้าตาขออาหารแต่ละอย่างว่าคุณภาพแล้วหน้าตาจะชวนหม่ำขนาดไหนค่ะ

ซูชิคุณภาพชิ้นใหญ่ๆ ปูอัดและปลาดิบ แต่ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่าที่นี่ปลาดิบสดมากๆ ลองกินแล้วชิ้นปลาหวานอร่อยมากเลยค่ะ โดยเฉพาะแซลม่อน แร่มาแบบไม่บางเกินไปได้รสชาติของปลาแบบเต็มๆคำ กินคู่กับวาซาบิเข้ากันเป็นที่สุด ขนาดเราไม่ชอบทานปลาดิบยังรู้สึกติดใจเลยค่ะ อร่อยและสดจริงๆ

แคริฟอเนียโรลแซลม่อน อัดไปด้วยเครื่องปรุงต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นผักต่างๆ ไข่กุ้งที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง แถมยังมีไส้เป็นปลาแซลม่อนสดๆ ที่พอได้เคี้ยวเข้าแล้วจะทำให้อยากทานเรื่อยๆเลยค่ะ เพราะอร่อยจริงๆ เสริฟมาแบบถ้วยเสียบ 1 ถ้วยมี 2 อัน แต่เราสั่งพี่พนักงานว่าขออันเดียว กลัวทานไม่หมดเพราะไม่ถนัดอาหารทางนี้ค่ะ

นี่ก็สุดยอดเลย ขอยกนิ้วให้อยากให้ไปลองค่ะ ผักโขมอบชีส ตัวผักก็มีคุณลักษณะเฉพาะของตัวเองอยู่แล้วมากับชีสที่ล้นทะลัก คงไม่ต้องบอกว่าอร่อยแค่ไหนแค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ


ตามมาด้วยบะหมี่เย็น เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มกำลังดีเสริฟมากับซุปเย็นๆ ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมากๆ รสชาติกำลังดีไม่เค็มไม่หวานเกินไป คงถูกใจสำหรับขาบะหมี่เย็นที่สำคัญรูปลักษณ์ภาชนะที่ใส่มาเป็นถ้วยไม้ไผ่ได้อารมณ์ในการทานไปอีกแบบค่ะ

มาถึงอีกเมนูที่อยากแนะนำนั่นคือยำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ขอบอกว่าหอยตัวใหญ่มากยำมาเป็นแบบช้อนๆพอดีคำรสชาติจัดจ้านมากเลยค่ะ

อันนี้ขอแนะนำเลยค่ะสเต๊กกุ้ง ที่ใช้กุ้งสดๆมาทำสเต๊ก เนื้อกุ้งเด้งมากๆ หวานสุดๆ เมื่อเอามาจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดอร่อยอย่างบอกใครเลย

อันนี้เป็นเมนูที่เอาคริ๊ปไปส่งให้พนักงานตั้งแต่แรกๆ แต่มาหลังๆ ใช้เวลานานพอสมควรกับเห็ดย่างและบาร์บีคิว น้ำราดออกจะหวานนิ๊ดๆต้องกินกับน้ำจิ้มจะได้ความอร่อยของเนื้อย่างค่ะ

เทมปุระกรอบนอกนุ่มใน กุ้งตัวใหญ่ๆ สดๆ ทอดจนหอมอ่อยจิ้มกับน้ำจิ้มเทมปุระ รับรองต้องไปสั่งเพิ่มอีกจาน หนึ่งจานมีเทมปุระสองตัวค่ะ

บานอฟฟี่ ขนมชื่อแปลกๆ แต่พอได้ลองแล้วหยิบมาสองถ้วยเลยค่ะ คล้ายๆครีมหรืออะไรสักอย่างด้านล่างเป็นชั้นของกล้วย คาราเมล และกาแฟ ตบท้ายด้วยวิ๊ปปิ้งครีม วู๊ๆๆๆๆๆๆ

พานาค๊อตต้าชาเขียว เมนูชื่อแปลกๆแต่รสชาติไม่แปลกเลย อร่อยค่ะ ด้านล่างเป็นชั้นของชาเขียว ถัดมาเป็นช็อคโกแล็ตแล้วก็วิปปิ้งครีม อร่อยมากๆ

ไอสครีม สตอเบรี่เชอร์เบส หวานซ่อมเปรี้ยว ชอบอ่ะอันนี้ ไม่หวานมากและไม่เปรี้ยวจัดจนเกินไป แค่เห็นในรูปสีสันสวยงามก็ชวนทานไปครึ่งละ กดมาไม่ได้จะเอามาเยอะอย่างนี้แต่ปิดไม่เป็น เหอๆๆๆ เค้าต้องดันขึ้นพอเรากดเสร็จไม่รู้มันเลยไหลออกมาใหญ่เลย -*-

เค้กชาเขียว เนื้อเค้กนุ่มและนิ่มมากๆ ตัดกับความหอมหวานของชาเขียวและช็อคโกเล็ตขาว และแซมด้วยโกโก้ด้านล่างลงตัวจริงๆ ฟินเลย

เค้กกาแฟอัลม่อน เนื้อเค้กมีความหอมของกาแฟและอัลม่อน ทั้งเนื้อของตัวเค้กเอกและครีมกาแฟกับอัลม่อนก็แทบจะละลายเมื่อเข้าปากเลยค่ะ

บราวนี่ นุ่มได้ใจ ไม่หวานไม่ขมจนเกินไป สอดไส้ด้วยถั่วอัลม่อน เคี้ยวกรุปกรอบหวานหอมสไตร์บราวนี่ ทานแล้วยากจะหยุดได้ ขออีกชิ้นด่นค่ะ

สุดท้ายกับขนมจำพวกวุ้นและฟรุตสลัด ยังมีอาหารอีกมากมายที่ตักมาทานแต่ไม่ได้เก็บภาพมาฝากทั้งอาหารประเภท ซุปต่างๆ ติ่มซำ ปิ้งย่าง น้ำอัดลมและน้ำหวานชนิดต่างๆ เอาเป็นว่าของคุณภาพขนาดนี้กับราคา ก็ต้องยอมรับได้ค่ะว่าคุ้มค่ามากที่ได้ลอง ยังไงขอตัวไปหม่ำต่อก่อนนะคะหากใครอยากลองอาหารคุณภาพอย่างนี้บ้างก็เชิญที่ Oishi buffet ที่แฟชั่นไอร์แลนด์ได้เลยค่ะ

สรุปโดยรวม
รสชาติ 9/10 อาหารโดยากจะออกไทงแนวญี่ปุ่นสำหรับคนที่ชอบทานอาหารแบบหลากหลายแนวในการสร้างสรรรค์ตัวอาหารออกมาดูน่ารับระทานเป็นอย่างมาก
คณภาพ 10/10 เรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึง ของทุกอย่างปรุงกันแบบใหม่ๆอยากทานอะไรให้ใส่คริปไปให้แล้วพนักงานก็จะทำอาหารมาให้ทานค่ะ
ความคุ้มค่า 10/10 ราคาอาจดูแพงเวอร์แต่ถ้าได้ลองทานดูแล้วจะรู้ว่าแตกต่างจากอาหารทั่วๆไปอย่างมาก
บรรยากาศ 9/10 การตกแต่งร้านก็ดูมีสไตร์เรียบๆ แต่ก็แอบแผงความหรูหราในแบบเอเซีย

จึงไม่แปลกที่จะเข้าไปลองรสชาติอาหารที่บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดค่ะ

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

บลูเบอร์รี่ซีสพาย ง่ายๆ By Asoonkoy

บลูเบอร์รี่ซีสพาย By Asoonkoy

อากาศร้อนๆแบบบี้นึกถึงขนมหวานๆเย็นๆมั้ยคะเพื่อนๆ  วันว่าง แบบนี้เลยถือโอกาสทำบลูเบอร์รี่ชีสพาย
ขนมสุดโปรดซะเลย(สูตรจากคุณอสูรพิษเขี้ยวยาว) ทำก็ง่าย วัตถุดิบก็หาได้ไม่ยาก ไม่ต้องใช้เตาอบ ขั้นตอนการทำก็ง่าแสนง่าย เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มฝึกทำขนมด้วยตัวเองไว้ทานกับครอบครัว คนรัก มากๆ อีกทั้งรสชาติยังอร่อยอีกด้วยค่ะ


1 แครกเกอร์ 4 ห่อ โดยของเราแบ่งเป็นโอริโอ 2 ห่อ และริซซ์ 2 ห่อ
2 ครีมชีส 1 ก้อน
3 โยเกิร์ต รสธรรมชาติ 1 ถ้วย
4 เนยเค็ม 1 ก้อน
5 นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
6 วุ้นผงสำหรับทำขนมหรือเจาตินแบบแผ่นก็ใช้ได้จ้า
7 มะนาว 1 ลูก
8 บลูเบอร์รี่กระป๋อง 1 กระป๋อง

พอดีเราต้องการแบบ 2 รสชาติในถาดเดียวเลยใช้แครกเกอร์ 2 แบบ แต่ถ้าเพื่อนๆอยากทานแบบรสเดียวก็ไม่ว่ากันจ้า^^"
วิธีทำ
1 แกะแครกเกอร์ใส่ถ้วย เตรียมนำไปบด ส่วนโอรีโอนั้นต้องปาดครีมสีขาวทิ้งก่อนจ้า



2 นำแครกเกอร์ไปบด ของเราวิธีบดนั้นง่ายแสนง่าย หาๆในห้องครัวนั่นแหละ ฮิๆ ใช้สากนั่นเอง 555(เคล็ดลับการบดแคร็กเกอร์ให้ละเอียดก็คือ ตอนบดให้นึกถึงคนที่เราไม่ชอบ จะได้บดได้ละเอียดเป็นพิเศษ กร๊ากๆๆล้อเล่นจ้า)  พักไว้ก่อน หน้าตาจะเป็นแบบนี้จ้า



3 นำเนยเค็มมาละลายใช้ไมโครเวฟก็ได้จ้า ประมาณ 10 วินาที ออกมาหอมเวอร์>//< แล้วนำมาเทใส่ลงแคร็กเกอร์ที่เตรียมไว้ เพื่อให้จับตัวกันแล้วนำมาใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ อัดให้แน่นพอประมาณ จากนั้นนำไปพักในตู้เย็น

4 นำครีมชีสที่เตรียมไว้ที่อุณหภูมิห้องมาหั่นๆเป็นชิ้นๆเพื่อจะได้ตีง่ายขึ้น 



5 จากนั้นใส่นมข้นหวาน และโยเกิร์ต คนให้เข้ากัน แต่ถ้าเพื่อนๆขี้เกียจตีครีมชีสก็ใช้โถปั่นที่ใช้ปั่นน้ำผลไม้ก็ได้ ไม่ว่ากันจ้า


6 หลังจากตีครึมชีสจนเนียนก็บีบมะนาวที่หั่นเตรียมไว้ลงไป ถ้าอยากให้ครีมชีสจับตัวให้ใส่เจลาตินด้วยก็ได้จ้า(ต้มน้ำเพียงเล็กน้อยประมาณครึ่งถ้วยตวงใส่เจลาตินผงในน้ำเดือดคนให้เข้ากัน)

7 นำแคร็กเกอร์ที่เราเอาไปแช่เย็นออกมาเตรียมตัวทาครีมชีส ขั้นตอนนี้ใครชอบครีมชีสเยอะๆแบบเราก็ใส่ลงไปแบบตามใจคนทำสุดๆ 555 เลยได้มาแค่สามถาดใหญ่ แต่ถ้าใช้ถาดฟรอยด์แบบเล็ก ก็จะได้ประมาณ 12 ถาด

งานนี้ทาจนไม่เห็นเนื้อพายกันเลยทีเดียว>//<


เสร็จแล้วก็นำไปแช่เย็นจนครีมชีสเริ่มเซ็ตตัว
ตัดชีสพายเป็นชิ้นพอดีๆ ใส่จานแต่เราตัดค่อนข้างยากนิดนึงเพราะอัดเนื้อพายแนนไปหน่อย และตักบลูเบอร์รี่ราดลงบนชีสพายได้เลยเลยจ้า ใครชอบบลูเบอร์รี่ก็ตักราดให้เยิ้มไปเลย555 
เสร็จแล้วพร้อมเสริฟจ้า สังเกตุความหนาของครีมชีสเราหนามว๊ากๆ แต่ทานแล้วพูดเลยว่า ฟิน....น
ไม่ยากเลยเนอะ ใช้เวลาเพียงสั้นๆก็ได้ขนมอร่อยๆมาทานได้ทั้งครอบครัวแล้วจ้า เหมาะสำหรับมือใหม่สุดๆ อ้อ!! ลืมบอกเรื่องรสชาติส่วนที่เป็นโอรีโอ้จะให้รสชาติที่เข้มข้น มันๆหน่อย  ส่วนที่เป็นแคร็กเกอร์สีน้ำตาลจะหอม หวานสุดๆ ถาดเดียวได้ 2 อารมย์ เลย^^"

เดี๋ยวขอตัวไปทานบลูเบอร์รี่ชีสพายฝีมือตัวเองก่อนนะจ๊ะ บ๊าย บาย^^