ธนพรแหนมเนือง ร้านอาหารลูกผสม

การเดินทาง เพียงเราขับรถตามทางเพื่อเข้าสู่จังหวัดหนองคายก็จะเจอร้านที่มีป้ายเด่นสะดุดตา หาง่ายไม่ยากเพราะติดถนนสายหลักของหนองคาย


       ธนภรแหนมเนือง ร้านค้าสายพันธุ์ผสม มีอาหารหลากหลายชนิดทั้ง อาหารเวียดนาม อาหารไทย และอาหารเช้า เส้นทางที่สามารถมาที่ร้านนี้ก็ขอบอกว่ามาไม่ยากเลยเพียงแค่เราขับรถตามทางที่จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคายเท่านั้น บรรยากาศของร้านจัดแบบเป็นร้านอาหารอาคารไม้ มีทั้งที่สามารถรับประทานที่ร้านและสามารถหาซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย ซึ่งเมนูที่ทาร้านแนะนำก็ไม่แปลกใจเพราะว่าหากมาหนองคายแล้วไม่รู้จักกับคำว่าแหนมเนืองก็จะเท่ากับว่ามาไม่ถึงหนองคายค่ะ และที่เป็นจุดสะดุดตาก็คือมีป้ายขนาดใหญ่หน้าร้านที่เรียกว่าถ้าตั้งใจขับรถมายังไงก็เห็น แต่วันที่เราไปคนที่มารับประทานอาหารที่ร้านยังมีไม่มากอาจเป็นเพราะยังเช้าอยู่ก็เป็นได้ ในร้านแอบเห็นไอเดียเก๋ๆ ของเจ้าของร้านหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นป้านทางไปสุขาที่เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ส่วนช่องทางติดต่อของร้านทางเจ้าของบอกสามารถโทรมาสั่งจองโต๊ะได้และยังมีบริการส่งอาหารให้กับลูกค้าด้วย เป็นอีกหนึ่งที่ ที่น่าแวะลอง

ร้านตั้งอยู่ติดกับถนนสายหลักจึงเป็นจุดสังเกตุง่าย โดยเฉพาะป้ายหน้าร้านขนาดใหญ่ ยังไม่รวมถึงป้ายที่ทางร้านจัดทำไปตั้งอยู่ที่ริมถนนสายหลักอีกด้วยค่ะ

 ภาพบรรยากาศหน้าร้านมีบริการส่งถึงบ้านด้วย อิอิอิ แต่อาหารที่เจ้าของร้านนำเสนอก็ไม่พ้นแหนมเนืองค่ะ แต่ว่าเราไปถึงร้านตอนเช้ามากๆ น่าจะยังไม่ 8 โมงเช้าเลยก็เลยยังไม่อยากลองทานแหนมเนืองน่ะค่ะ

ภาพอาหารตกแต่งน่าทานทั้งนั้นเลย เน้นออกไปทางอาหารเวียดนามเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น แหนมเนือง กุ้งพันอ้อย แหนมและไส้กรอกชนิดต่างๆ ขนมจีนที่มีทั้งน้ำยา น้ำพริกและน้ำเงี๊ยว น่าทานมากเรียกได้ว่าแค่ภาพการนำเสนอของร้านก็เรียกน้ำย่อยได้อย่างดีเยี่ยม

 เมนูเช้านี้เป็นไข่กระทะ เสริฟพร้อมขนมปังน่าทานๆ แต่อย่างที่บอกจะให้มานั่งทานแหนมเนืองตั้งแต่เช้าตรู่ก็กระไรอยู่เลยลองๆ อ่านในเมนูแล้วฏ้มาสะดุดตากับ เจ้าไข่กระทะนี่แหล่ะรูปร่างหน้าตาก็เป็นอย่างที่เห็นแหล่ะค่ะน่าทานที่สุด

 เพิ่มซอสอีกสักนิ๊ดเพื่อความกลมกล่อม เสริฟมาพร้อมกับซอสหลากหลายทั้ง ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก และซอสถั่วเหลือง ยังมีพริกไทยสำหรับผู้ที่ต้องการรสเผ็ดร้อนด้วยค่ะ

เนื้อไข่มีรสชาติอร่อยมากๆ และหอมกลิ่นเนยที่ทามาใต้กระทะ พอตัดออกมาคำแรกก็เจอกับความฉ่ำของไข่แดงที่เป็นไข่กระทะที่ทำมาได้อย่างลงตัวไข่แดงมะตูมเยิ้มอร่อยมากๆ ไข่ขาวที่กรอบปนนุ่มกำลังพอดี *0*

นอกจากอาหารที่น่าสนใจแล้วยังแอบไปเห็นภาพทางไปห้องน้ำแปลกๆขำๆอีกค่ะ ที่เราได้นำเสนอไปตั้งแต่ต้นบทความแต่ป้ายห้องน้ำนั้น ดูท่าจะโยฝนและเริ่มชำรุดจากอายุการใช้งานแล้วล่ะค่ะเริ่มพังบ้างแล้ว

ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปทานอาหารและลองแวะไปตีความหมายของแต่ละภาพดูนะคะ ว่าเค้าบอกเป็นในๆว่าห้องน้ำที่ร้านธนภรแห่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง และห้ามทำอะไรกับห้องน้ำของพี่เจ้าของบ้างค่ะ

และสุดท้ายหากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่หนองคายแล้วยังไงก็อย่าลืมแวะไปลองชิมอาหารที่ร้านธนภรแหนมเนืองนะคะอร่อยมากเลยทีเดียว แต่หากใครที่ได้ลองทานแหนมเนืองที่ทางร้านนำเสนอแล้วก็เข้ามาแบ่งปันข้อมูลให้ฟังกันบ้างนะคะว่าจะอร่อยมากขนาดไหน

สรุปภาพรวม
รสชาติ 7/10 อาหารแต่ละอย่างมีรสชาติไม่โดดเด่น
คุณภาพ 8/10 ความสดและใหม่ก็เหมือนร้านอาหารทั่วๆไป แต่ว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว
ความคุ้มค่า 8/10 ราคากับตัวอาหารถือว่าลงตัวสุดๆ
บรรยากาศ 8/10 ร้านอาหารไม่แน่ใจว่าเปิดมานานหรือยังแต่การตกแต่งร้านโดยเฉพาะป้ายที่น่าจะเป็นจุดสนใจเริ่มโดนน้ำและลอกแล้ว (ตอนที่เราไปทาน)

แดงแหนมเนือง ของฝากที่พลาดไม่ได้

การเดินทาง เดินทางไปยังตลาดหนองคายแล้วขับรถไปจอดหน้าร้านเลยก็ได้ตัวร้านจะอยู่ท้ายตลาดสังเกตุง่าย ร้านตกแต่งด้วยสีแดง รถจอดรอเพื่อขนกล่องแหนมเนืองจะนวนมาก

       มาถึงคราวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของที่ตลาดหนองคายเท่าไร แต่ทว่าเดินไปเดินมาจนสุดซอย ก็มาเจอร้านแดงแหนมเนืองอันขึ้นชื่อ ขอบอกเลยว่าที่ร้านเป็นร้านเหมือนร้านส่งมากกว่าเพราะว่ามีแต่รถยนต์ขับวนเวียนเข้ามารับแหนมเนืองสั่งกันทีไม่รู้กี่สิบกล่องเลยล่ะ ส่วนถามว่าถ้าไปซื้อแล้วคิวจะรอนานหรือว่าทางร้านเค้าทำนานหรือไม่นั้นตอบได้เลยค่ะว่ารอไม่นานเลยเหมือนกับว่าทางร้านเค้ามีพนักงานอยู่หลายคนมากพอไปสั่งว่ากี่กล่องทางร้านก็จะจัดใส่เป็นชุดๆ ไว้ให้และพร้อมส่งทันที แต่ก็ยังแปลกใจที่ว่าสั่งปุ๊บได้ปั๊บแอบแปลกใจว่าทางร้านจัดใส่กล่องไว้รอแต่แรกแล้วหรือเปล่ากลัวเหมือนกันว่าหากทางร้านจัดไว้นานแล้วจะทำให้ของข้างในไม่สดโดยเฉพาะผักที่อยู่ด้านในจะต้องเสียและเน่าก่อนเป็นลำดับแรกๆ แต่ไหนๆก็มาถึงหนองคายแล้วและร้านนี้ก็เป็นร้านที่ขึ้นชื่อทางด้านแหนมเนืองว่าอร่อยทั้งหมูและน้ำจิ้มรสเด็ดของทางร้าน เค้าจึงซื้อกลับมาลองที่บ้าน ขอบอกว่ากว่าจะได้ทำทานน่ะร่วม ๆ 4 วันละนับจากวันที่ไปซื้อมาจากหนองคายเพราะว่ายุ่งๆเรื่องงานอยู่เลยกลับดึกตลอด แต่ของข้างในพอเปิดออกมาเพื่อจะนำมาทำกินยังสดอยู่เลย ปล.เราแช่ตู้เย็นไว้นะ ผักก็สดจะมีเสียบ้างบางส่วนเพราะนานแล้วตั้ง 4 วันแล้วนี่แต่ก็ยังประทัยบใจอยู่ว่าของข้างในยังดูสดใหม่อยู่เลยคุณภาพของก็ดีด้วย แต่ตัวหมูต้องเอามาอุ่นก่อนจ๊ะ มาดูกันเลยว่าภายในกล่องจะเป็นอย่างไร อันที่จริงแล้วทางร้านมีจำหน่ายทั้งกล่องเล็กราคา 140 บาท และกล่องใหญ่ 210 บาท ต่างกันที่กล่องเล็กน้อยกว่ามีหมู 5 ไม้ ส่วนกล่องใหญ่ มากกว่าและมีหมู 10 ไม้ ส่วนแผ่นแป้งข้างในเราซื้อเพิ่มมาอีก 1 ถุง 10 บาทเอง เพราะปกติที่บ้านชอบทานแผ่นแป้งหมดก่อนผักและหมูทุกที >.<

กล่องภายนอกสีสันสดใส ดูแล้วอยากทานขึ้นมาทันทีเลย เป็นแบรนที่มีคนรับมาขายจำนวนมากแต่ก็ทุกกล่องที่ออกมาก็จะมีรูปแบบกล่องเกมือนกันคือตัดด้วยสีแดงค่ะ

 ผัก 4 วัน แต่ก็ยังสดดีมาก มีเสียบ้างบางส่วน แต่ยังดูกรอบสดอยู่เลยค่ะ แทบไม่เชื่อสายตา ตอนแรกคิดว่าจะต้องทานผักเน่าๆกับหมูและน้ำจิ้มซะอีก แผนที่สองคือเดินทางไปตลาดสดหน้าบ้านเพื่อซื้อผักมาทำชุดผักทานร่วมกับแหนมเนืองแต่ปรากฎว่าผักข้างในยังดีอยู่เลย ผักในแหนมเนืองก็เหมือนๆกันทุกที่ค่ะ คือมี แตงกว่า ผักกาดหอม มะปรางดิบ กล้วยน้ำว้าดิบ หริก กระเทียม ผักแพรว และใบอะไรอีกนิ๊ดหน่อยที่เราไม่ค่อยรู้จักและไม่ชอบทาน -*-

แผ่นแป้ง น้ำจิ้ม และหมู น่าทามมากๆพออุ่นกลิ่นชวนน้ำลายหกมากๆ แยกออกมาเป็นแพคๆ อย่างชัดเจนเลย หมู แป้ง น้ำจิ้ม ถั่วที่ใช้ในการผสมกับน้ำจิ้มเรียกว่าอร่อยได้เองแม้ว่าจะไม่เคยทำแหนมเนืองทานเองมาก่อนก็ตามค่ะ

 แผ่นแป้งพอแช่น้ำก็นุ่มน่าทานแต่เราชอบเอาไปแช่น้ำอุ่นมากกว่า เราไม่รู้เวลาตายตัวแน่นอนของการแช่แผ่นแป้งนะคะ แต่ว่าซัก 5-10 นาทีแผ่นแป้งก็เริ่มนิ่มพร้อมทานแล้วล่ะค่ะ

น้ำจิ้มรสชาติอร่อยมากๆ เข้มข้นจริงๆ แยกอยู่ 3 ส่วนน้ำจิ้มใสๆ น้ำจิ้มพริก แล้วก็ถั่วคั่วป่นเทรวมกันแล้วก็ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันก็พร้อมรับประทานแล้วค่ะ

 และเมื่อเราอุ่นหมูและหั่นออกเป็นชิ้นๆพอดีคำ กับการซอยและหั่นผักเพื่อนำมาทานร่วมกันทั้งหมดในสไตร์แหนมเนือง ทานห่อรวมกับแผ่นแป้งแล้วใส่น้ำจิ้มเล็กน้อย เป็นอย่างไรบ้างคะเมื่อจัดเป็นชุดเรียบร้อยแล้วน่าทานไหมคะ ^^"

พอเอามาห่อแป้งแล้วยิ่งน่าทานใหญ่เลยใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปไม่ว่าจะเป็นแป้งห่อ หมู ผักต่างๆ และใส่น้ำจิ้มในปริมาณที่เราพอใจ แค่นี้ก็อร่อยสุดๆละจ๊ะ

       สรุปแล้วถ้าได้มีโอกาสไปแวะจังหวัดหนองคายอย่าลืมที่จะแวะไปหาซื้อมาสักกล่อง 2 กล่อง รับประกันว่าอร่อยไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ งั้นเราขอตัวไปทานแหนมเนืองอร่อยๆ ก่อนนะคะ >.<

สรุปภาพรวม
รสชาติ 8/10 หากใครที่ชอบอาหารที่เน้นผักล่ะก็แนะนำเลยอร่อยมาก เข้ากันระหว่างแผ่นแป้งผักหมูและน้ำจิ้ม
คุณภาพ 8/10 หากทานเลยก็จะสดมากๆ แต่หากซื้อมาเป็นของฝากก็จะทำให้ความสดลดน้อยลง
ความคุ้มค่า 8/10 ราคาไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับปริมาณของแหนมเนืองที่ซื้อมากล่องเดียวก็ทานกันได้ทั้งครอบครัว
บรรยากาศ 5/10 อยู่ในตลาดหนองคายเลยมีทั้งทานทันทีแต่บรรยากาศอาจเต็ม 10 กะได้เพราะทานที่บ้านเราเอง 555+

โรตี กระบี่ สั่งเลยเจ้าไหนก็อร่อย

การเดินทาง เดินเท้าหรือขับรถไปตามชายหาดกระบี่ เจอร้านขายโรตีร้านไหนก็เดินไปสั่งได้เลย หรือจะลองไปทานเจ้าขึ้นชื่อก็นี่เลยห้างโว๊คค่ะ

       เป็นอะไรที่ฟังเค้ามาอีกทีค่ะ เคยค้นหาของทานขึันชื่อของจังหวัดกระบี่ ก็แล้วเจอทั้งร้านอาหารที่มีคนมานำเสนอไว้ โรงแรมระดับหลายดาวต่างๆ แต่ก็ต้องมาสะดุดตากับร้านขายอาหารร้านหนึ่งตรงมุมข้างๆห้างโว๊คที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยืนมุงเพื่อจะซื้อของกินบางอย่าง พอเดินเข้าไปต่อแถวก็มีเสียงดังขึ้นทันทีว่าน้องคะ หมดแล้วนะคะพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เศร้าเลย เพราะไอ้ของที่ว่านั้นคือ โรตีเจ้าอร่อยขึ้นชื่อของเมืองกระบี่ ตั้งอยู่บริเวณห้างโว๊คที่กระบี่ ที่รู้น่ะเป็นเพราะว่าเพื่อนสนิทเล่าให้ฟังจึงอยากมาลองโดนสักหน่อย จริงๆ แล้วโรตีเจ้าอร่อยเจ้านี้ไม่ได้ลงโฆษณาหรือมีหน้าร้านชื่อร้านดังๆหรอกจ๊ะ แต่มาจากความอร่อยและคุณภาพของโรตีที่ทำให้ใครต่อใครที่ได้ลิ้มลองต้องบอกเป็นคำเดียวกันว่ามันอร่อยสุดยอดจริงๆ เพราะอย่างนี้จึงทำให้โรตีข้างห้างโว็คโด่งดังอย่างไม่น่าเชื่อว่าไม่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้นเพียงแต่มาจากคุณภาพของตัวโรตีเองล้วนๆ จึงทำให้เราต้องขับรถวนหาซะตั้งนานพอเจอกลับกลายเป็นว่าหมดซะละ ก็เลยออกมาจากร้านเดินต่อมาด้วยความหงุดหงิดแต่ก็พบกับร้านขายโรตีอีกร้านเป็นรถเข็นคล้ายๆ แถวบ้านเรา ไม่รู้ว่าจะอร่อยเหมือนเจ้าดังของกระบี่ไหมเราลองมาดูกันค่ะ

ขอบอกก่อนเลยว่าแถวนี้เค้าเรียกโรตีว่าแพนเค้กนะจ๊ะ เพราะคงเป็นที่ว่าชาวต่างชาติจะมาหาซื้อไปรับประทานกันอย่างแพร่หลายซึ่งไม่เพียงชาวไทยที่ชื่นชอบในรสชาติของโรตีที่นี่แล้วชาวต่างประเทศก็ชอบและมักมาสั่งกันทีละหลายๆ แผ่น ได้ยินเพียงแต่คำว่าแพนเค้กไม่ได้ยินการสั่งคำว่าโรตีเลย

ถ้ารีวิวแบบส่งกลิ่นออกมาได้ให้ลองนึกถึงกลิ่นแป้งที่โดนไฟร้อนๆกรอบๆสุกกำลังได้ที่กับกล้วยหอม นมข้นหวานและช็อกโกแลต แต่ว่าตอนรอก็แอบบ่นในใจนิ๊ดๆโรตีชิ้นแรกของฝรั่งที่มาสั่งก่อนหน้าเรานะว่าทำไมแค่โรตีธรรมดาๆ ถึงต้องรอนานขนาดนี้ พ่อค้าคนนี้ทอดโรตีในกระทะไฟร้อนๆ อย่างบรรจงและดูตั้งใจมากๆ จนทำให้คิดว่าเค้าจะตั้งใจทำเกินไปหรือเปล่า แต่พอถึงโรตีอันที่เราสั่งดูการทำตั้งแต่ต้นจนจบก็เข้าใจว่าเค้าใส่ใจในการทำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำแป้งขึ้นมาตีให้ขึ้นรู้แป้งดูหนานุ่มมากๆ แล้วก็เอามาทอดกับเนยร้อนๆ พอเริ่มสุกได้ที่ก็ใส่เครื่องลงไปของเราสั่งกล้วยหอมกับช๊อกโกแลต กลิ่นช่างหอมยั่วใจมากๆ ทำนานอยู่พอสมควรเลยพอเสริฟมาก็เป็นอย่างที่เห็นรูปร่างอาจดูไม่สวยงามเลิศหรู แต่ขอบอกว่ากลิ่นโรตีช่างชวนให้ลิ้มลองมากๆเลย โอยน้ำลายไหล

ใส่เครื่องเยอะมาก ตอนแรกก่อนทานก็แอบเสียใจว่าไม่ได้กินของเจ้าอร่อยขึ้นชื่อในกระบี่ แต่ขอบอกเลยค่ะเจ้าอื่นในกระบี่ก็ทำโรตีได้อร่อยไม่แพ้กันรสชาติต่างจากโรตีแถวบ้านเรามากๆเลยค่ะ ถ้าจะกล่าวถึงโรตีเรามักจะนึกถึงแป้งที่ถูกตีขึ้นรูปเป็นรูปสี่เหลี่ยมแล้วก็ใส่ไข่หรือแยมตามที่เราชอบและโรยด้วยนมข้นหวานกับน้ำตาล ซึ่งโรตีที่กระบี่จะเป็นอีกแนวถ้าให้เราเปรียบเทียบเราคิดว่าน่าจะคล้ายๆโรตีที่เค้าเรียกกันว่ามะตะบะมากกว่าค่ะ

       หากใครได้ไปเที่ยวและนอนพักที่กระบี่ ช่วงเวลากลางคืนก็อย่าลืมลองเดินออกมาหาซื้อไปชิมกันนะคะรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

สรุปภาพรวม
รสชาติ 9/10 เนื่องจากขนมประเภทโรตี เน้นหนักเรื่องความหวานและความมันหาดใครไม่ชอบประมาณนี้ก็ Say Goodbye ได้เลยค่ะ
คุณภาพ 9/10 อัดแน่นด้วยไส้และแป้งอย่างที่เห็นในภาพ เยอะมากๆ
ความคุ้มค่า 9/10 ปริมารกับราคาดูแล้วถือว่าซื้อเถอะสัก 2 อันยังได้เลยอร่อยๆแบบนี้คุ้ม
บรรยากาศ 5/10 เนื่องจากขายอยู่ข้างถนนบางคนอาจไม่ชอบก็ได้ค่ะ

ครัวธารา ร้านอาหารทะเทขึ้นชื่อของกระบี่

 การเดินทาง วิ่งรถเละริมหาดไปทางทิศเหนือของกระบี่ไปเรื่อยๆจนเกือบสุดหาด ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากตัวเมืองกระบี่ ก็จะเจอกับทางโค้งที่จะนำเราเข้าสู่ที่จอดรถของทางร้านครัวธาราแล้วล่ะค่ะ

       หากจะพูดถึงร้านอาหารประเภทอาหารทะเลที่จังหวัดกระบี่แล้วละก็ไม่พูดถึงร้านครัวธาราก็คงจะไม่ได้ จริงๆแล้วครัวธาราร้านอาหารร้านนี้ถูกผลกระทบของเจ้าคลื่นยักษ์สึนามิที่เข้าถล่มทะเลฝั่งอันดามัน เมื่อปี 2549 ซึ่งถล่มที่เขาหลัก ป่าตอง ภูเก็ต พังงาและรวมถึงกระบี่ด้วย และร้านครัวธาราก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักมาแล้ว แต่ปัจจุบันร้านอาหารครัวธาราได้ซ่อมแซมและสร้างบางส่วนขึ้นมาใหม่จนทำให้จำไม่ได้เลยสำหรับความเสียหายของเจ้าคลื่นยักษ์สึนามิในครั้งนั้น ร้านอาหารครัวธาราเป็นร้านที่ไม่ว่าจะวันไหนๆ ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาลิ้มลองรสชาติอาหารอันขึ้นชื่อของทางร้านกันอย่างเนืองแน่น ไม่ว่าจะวันธรรมดาหรือวันหยุด บางครั้งมีกรุ๊ปทัวร์มาลงจำเป็นต้องโทรมาสั่งจองโต๊ะล่วงหน้าก็มี วันนี้เราจะมาขอรีวิวอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านครัวธารา และอาหารที่นักท่องเที่ยวมักนิยมสั่งมารับประทานกันเรียกง่ายๆว่า มองไปโต๊ะไหนๆก็ต้องเห็นอาหารที่ เราจะมานำเสนอนี้ขึ้นโต๊ะอยู่อย่างแน่นอนส่วนเรื่องรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึงอร่อยที่สุด ตัวอย่างอาหารที่ว่านั้นเป็นอย่างไรบ้างมาชมกันค่ะ

เมนูจานแรกเราขอนำเสนอหอยชักตีนเมนูที่ทางร้านนำเสนอเป็นพิเศษ ที่ไม่ว่ามองไปโต๊ะไหนก็จะต้องเจอทั้งตัวหอยและเปลือกหอยกองเป็นตั้งๆแน่นอนค่ะ

 

มาพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ดของเราสั่งแบบย่างมาค่ะ มีอยู่ 2 แบบ ลวกกับย่างจ๊ะ ด้วยคุณลักษณะความอวบใหญ่เต็มคำของตัวหอยแล้วความสดใหม่ของเนื้อหอยที่เมื่อย่างแล้วจะทำให้หอมหวานเป็นอย่างมาก พอได้คลุกเคล้ากับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านแล้วล่ะก็....

แกะตัวออกมาคล้ายๆหอยแคลงแต่ขอบอกว่าอร่อยกว่าเยอะเลย จากภาพอาจดูไม่ต่างจากหอยแคลงเท่าไรแต่ที่จริงแล้ว ถ้าเปรียบเทียบจริงๆแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าหอยชักตีนนั้นจะตัวอวบใหญ่กว่ามาก

ยิ่งเจอกับน้ำจิ้มรสจัดจ้านสูตรเด็ดของทางร้านเข้าไปยิ่งเข้ากั๊นเข้ากันหอมหวานด้วยตัวหอยชักตีนแต่ก็เผ็ดร้อนด้วนน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน น้ำลายไหลเลยค่ะ

จานที่ 2 กุ้งอบวุ้นเส้นที่ขอบอกว่ารสชาติไม่เค็มจนเกินไปกำลังพอดีๆประกอบกับความสดและความหวานของกุ้งตัวใหญ่ๆจุดเด่นของอาหารจานนี้คือกุ้งตัวใหญ่และวุ้นเส้นที่พอเคี้ยวแล้วจะรู้สึกว่าเส้นที่กำลังเคี้ยวอยู่ช่างนุ่มและเหนียวเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ทำให้ทานไปไม่กี่คำก็รู้สึกแน่นท้องกับเจ้ากุ้งและวุ้นเส้นซะแล้วค่ะ

จานต่อไปที่ต้องยกให้เลย ปูม้านึ่งค่ะ ความสดและความหวานของเนื้อปูนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยหากใครลองได้ทานปูนึ่งจะต้องนึกออกถึงความหอมและหวานของเนื้อปู สำหรับปูม้าที่ร้านนี้เค้านึ่งได้แบบที่ว่าไม่แห้งจนเกินไปเพราะว่าหากนึ่งแล้วเนื้อปูแห้งเกินไปเนื้อจะเหี่ยวและไม่หวานและสดอย่างที่ควรเป็น ประกอบกับเมื่อได้น้ำจิ้มรสชาติเข้มข้นด้วยแล้วล่ะก็ สุดบรรยายค่ะ

สำหรับอาหารอีกจาน อันนี้ปลาเก๋าทอดน้ำปลาค่ะ มาพร้อมกับน้ำจิ้มที่รสชาติออกหวานๆ เนื้อปลาเก๋าผ่านการหมักน้ำปลาคลุกเค้าเข้ากันมาเป็นอย่างดีและทำการทอดมาได้อย่างลงตัวที่สุด กรอบนอกนุ่มในเวลาเคี้ยวด้านนอกที่เป็นหนังของปลาเสียงดังกรุบๆ เค็มๆมันๆ รสชาติออกไปทางเค็มและหวานหน่อยๆ แต่พอเจอชิ้นเนื้อแล้วขอบอกว่า แทบจะละลายในปากได้เลยค่ะ

ต้มยำทะเลรสเผ็ดร้อน จัดหนักมากับบรรดา กุ้ง หอย หมึกและปลา ใส่มากันแบบไม่ยั้งชนิดที่ว่าไม่อิ่มก็แปลกละ รสชาติตามแบบฉบับต้มยำทะเลของไทยเราเครื่องปรุงไม่ต้องพูดถึงมีเท่าไรเจ้าของร้านใส่มาไม่ยั้ง ยิ่งเสริฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ แล้วล่ะก็ขอบอกว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

       เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับอาหารของครัวธาราที่นำมาแนะนำ หากได้มีโอกาสไปกระบี่ก็ต้องบอกว่าอย่าลืมแวะไปโดนนะคะไม่งั้นจะบอกว่าเสียดายและเสียใจที่ไม่ได้แวะไปลองค่ะ


สรุปภาพรวม
รสชาติ 9/10 สำหรับอาหารประเภททอดยังมีน้ำมันหลงเหลืออยู่บ้างแต่น้อยมากเข้าใจว่าคงเพราะต้องเร่งเพราะลูกค้าเยอะมาก แต่อย่างอื่นอร่อยทุกอย่างเลย
คุณภาพ 10/10 โดยเฉพาะอาหารทะเลสดมาก จะไม่สดได้อย่างไร ก็ร้านอยู่ที่กระบี่ติดกับทะเลและแพปลานี่นา
ความคุ้มค่า 9/10 หากดูความคุ้มค่ากับราคาก็บอกได้ว่าจัดได้เลยค่ะแต่อย่างที่เราๆรู้กันอยู่แล้วว่าอาหารจำพวกของทะเลแพงเป็นทุนอยู่แล้ว
บรรยากาศ 9/10 เป็นร้านที่บรรยากาศแบบร้านอาหารชายทะเลคลื่นลมทะเลกับอาหารทพเลเข้ากั้นเข้ากัน

ตำมั่ว ร้านดังที่ห้าง The walk นครสวรรค์

การเดินทางมา ไม่ยากอะไรมากเลยเนื่องจากจังหวัดนครสวรรค์เป็นประตูสู่ภาคเหนือและภาคกลางอยู่แล้วหากมาจากทางภาคเหนือร้านจะอยู่ในห้าง THe Walk ทางเส้นถนนพหลโยธินไปทางพิษณุโลก ร้านจะอยู่ชั้น 1 ด้านในสุดบริเวณที่มีร้านขายโทรศัพท์มือถือเยอะค่ะหาง่ายไม่ยากเลย

วันนี้ได้ไปเดินช๊อปปิ้งทอดน่องที่จังหวัดนครสวรรค์ เห็นว่ามีห้างดังเปิดใหม่ที่มีชื่อว่า เดอะวอร์ค เป็นแหล่งรวมของกินและของช๊อปต่างๆมากมาย การเดินทางไปห้างนี้ก็ไม่ยากเลยเพียงแค่เราขับรถไปทางถนนสายเอเซีย เส้น นครสวรรค์-พิษณุโลก ก็จะเห็นห้างขนาดใหญ่อยู่ทางขวามือหากมาจากกรุงเทพต้องไปกลับรถมาค่ะ ซึ่งในห้างมีทั้งชั้นซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้นบนสุดขายของตกแต่งบ้านจำพวก INDEX ลิฟวิ่งมอร์ เดินแล้วเพลิ๊นเพลิน ชักเริ่มจะเหนื่อยและหิวขึ้นมาแล้วซิ ก็เดินลงมาที่ชั้น 1 โซนของกิน ก็ต้องมาสะดุดตากับร้านๆนึงที่มีคนมายืนออรอคิวเพื่อจะได้เข้าไปลิ้มรองชิมรสชาติอาหารของร้านนี้จึงทำให้เราอยากลองแล้วล่ะซิว่าจะอร่อยมากมายขนาดที่ต้องมารอคิวกันขนาดนี้เลยหรือ ก็เลยเดินตรงไปเข้าคิว ทางร้านสอบถามชื่อและเบอร์โทรศัพท์โดยที่เราได้คิวที่ 7 ค่ะโหกำลังหิวนะเนี่ยคิวที่ 7 เลยหรอ เอ่อ มาถึงขั้นนี้แล้วยังไงก็ต้องรอ แต่สิ่งแรกที่เจอในเมนูแนะนำคือ ส้มตำถาด แต่กำลังมีข่าวเรื่องสารปนเปื้อนเลยไม่กล้าลองอ่ะ เดินเล่นอีกพักเพื่อรอเวลาถึงคิว และแล้วก็มีโทรศัพท์มาตามว่าถึงคิวแล้ว เอาล่ะมาลองดูกันว่าอาหารที่คนนครสวรรค์ต้องยอมลงทุนรอคิวกันนานน๊านนาน จะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

เริ่มเมนูแรกกันเลยกันส้มตำไข่เค็มดูสีสันน่ากินมากๆ แค่ยกมาจานแรกก็นำลายหกแล้วค่ะ เสริฟมาพร้อมกับหมี่ลวก แค่เห็นและกลิ่นของส้มตำไข่เค็มที่ครุ้งไปด้วยน้ำมะนาวแล้วล่ะก็ขอบอกว่าน่าทานมากๆค่ะ

เมนูที่เราสั่งมาลองจานที่สองนั่นคือทอดมันกุ้งมากับผักเครื่องเคียงและน้ำบ๊วยที่เอาไว้จิ้มกับทอดมันกุ้ง มาในกระทำใบน้อยการจัดรูปแบบอาหารชวนให้เราตักมาเคี้ยวมกๆเลย ส่วนเรื่องตัวอาหารขอบอกก่อนว่าต้องรอสักพักเพราะมาแบบว่าร้อนระอุมากๆค่ะ

ส่วนอีกเมนูไม่ต้องบรรยายกันเลยทีเดียวแค่เห็นหน้าตาก็รู้ละว่าคือ เจ้าตับหวานนั่นเอง ตัวตับนั้นไม่ต้องพูดถึงสดใหม่นิ่มไม่ขม ใส่มากับแตงกวาและข้าวคั่ว เครื่องเคียงอย่างหอมและพริกแห้งเข้ากันมากๆค่ะ

ส่วนที่เอามากินคู่กันนั้นก็คือข้าวเหนียวและ หมี่ลวกที่ใส่กระเทียมเจียวนิ๊ดๆหอมและนุ่มในแบบฉบับของตำมั่วค่ะ

หากใครที่กำลังคิดจะเดินทางขึ้นเหนือที่จะต้องผ่านจังหวัดนครสวรรค์แล้วล่ะก็อย่าลืมแวะลองไปเที่ยวที่ห้างใหม่ เดอะวอร์ค และต้องไปโดนร้านตำมั่วสักครั้งในชีวิตนี้ค่ะ เหอ เหอ เหอ

สรุปโดยรวม
รสชาติ 5/10 เนื่องจากมีความรู้สึกว่าอาหารจะออกไปทางเค็มมากๆ
คุณภาพ 7/10 ถ้าเทียบกับอาหารตามร้านค้าด้วยกันถือว่าคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก
ความคุมค่า 7/10 ก็ยังคงเป็นอาหารขึ้นห้างที่คุณภาพกับราคาไปด้วยกันได้เสมอ
บรรยากาศ 8/10 ตกแต่งร้านได้ดูลงตัวดีให้ความรู้สึกถึงอาหารจำพวกส้มตำและยำต่างๆ แต่ด้วยพื้นที่ค่อนข้างจำกัดเปิดแรกๆถึงจำเป็นต้องจับคิวรอกันเลยทีเดียว

ขนมไข่กระโหลกที่ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา แปลกแต่อร่อย

ขนมไข่กระโหลกที่ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา

การเดินทาง วิ่งตรงไปเรื่อยๆมองทางซ้ายมือไว้ไปตามทางถนนสุขุมวิทย์ ประมาณ 20 กิโลเมตรจากตัวพัทยา
       เชื่อว่าหลายคนคงเคยไปเที่ยวทะเลที่อยู่ใกล้ๆ กับกรุงเทพมาแล้วถ้าเอ่ยชื่อก็ต้องร้องอ๋อและก็บอกว่าเราก็ไปมาแล้วและเมื่อเดือนที่แล้วก็เพิ่งไปมาเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะนั่นคือ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ทะเลที่นี่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเล่นน้ำและเที่ยวพักผ่อนกับสถานบริการจำนวนมาก จึงทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาเจริญขึ้นอย่างมากมาย และล่าสุดที่ไปเที่ยวมาก็ได้ไปสัมผัสกับตลาดน้ำที่เพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้นั่นคือ ตลาดน้ำ 4 ภาคเมืองพัทยา ที่นำเอาวัฒนธรรมประเพณีและอาหารของทั้ง 4 ภาคมาจัดจำหน่ายโดยแบ่งออกเป็นโซนๆ ซึ่งพอเข้าไปแล้วจะมีการแสดงดนตรีไทยของเด็กๆ ถ้าให้เดาน่าจะเป็นเด็กนักเรียนที่เมืองพัทยา ส่วนการเดินทางไปตลาดน้ำสี่ภาคสามารถไปได้อย่างง่ายดายก็เพียงแค่เราขับรถไปทางพัทยาเหนือ และวิ่งตามถนนเส้นหลักที่เป็นถนนสุขุมวิทย์ ตัวตลาดจะอยู่ริมถนน จุดสังเกตุมองได้ง่ายมากค่ะขนาดเราไม่เคยไปยังพอคลำๆทางไปได้เลย ออกจากตัวพัทยาอาจจะดูว่าไกลหน่อยแต่ขับรถมองบรรยากาศไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอค่ะ แต่ว่าวันนี้เราไม่ได้มารีวิวตัวตลาดให้ดูนะคะ เพียงแต่ว่าเข้าไปเดินเล่นในตลาดแล้วก็สะดุดกับขนมชนิดหนึ่งน่าลองทานเลยเอามารีวิวให้ดูเผื่อใครอยากลองทานดูมั่งค่ะ

ก่อนอื่นไหนๆก็ไหนๆ แล้วมาพัทยาทั้งทีจะไม่ลงเล่นน้ำได้อย่างไร โมโจขอเดินทอดอารมย์บนหาดทรายแล้วก็เล่นน้ำสักแป๊บนะครับก่อนไปหาของกินที่ตลาดน้ำกันต่อ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอร่อยๆ รออยู่บ้าง แต่ตอนนี้ของเล่นให้ชุ่มปอดก่อน แต่ว่าทำไมมันร้อนอย่งนี้นะ เฮ้อ

นั่งมองวิวข้างทางช่วยลุ้นตลอดเวลาว่าจะถึงตลาดน้ำสี่ภาคหรือยัง ทำไมไม่ถึงสักทีนะเหมือนไกลจังเลยเริ่มโมโหหิวแล้วนะครับ เดี๋ยวออกไปไล่กินสิบล้อเล่นซะดีมั๊ย แง่มๆๆ

เย้ถึงสักที เดินเข้าไปในตลาดกันเลยดีกว่าค่ะ นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาเพื่อเที่ยวชมบรรยากาศแบบตลาดน้ำ มีเรือรับจ้างบริการพาล่องแม่น้ำรอบๆตลาดด้วยค่ะ ของขายภายในมีทั้งของกินของฝากมากมายเลย ทั้งที่เราเคยเห็นและแบบที่ไม่เคยเห็นแถวๆบ้านเราจ๊ะ ไปตอนแรกคนเยอะไม่กล้าเอาโมโจลงเดิน ดูท่าจะกลัวๆด้วยเพราะคนเยอะหางหดเลย -*-

แต่พอเดินไปสักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับตัวตลาดขอบอกว่าปกติหน้าร้อนอากาศบ้านเราจะต้องร้อนมากๆ แต่ที่ลาดไม่ร้อนอย่างที่คิดไว้ คงเป็นเพราะมีน้ำล้อมรอบและทางเดินก็เป็นทางเดินที่สร้างแบบเชื่อมต่อเลยมีร่มเงาของหลังคาปิดบังแดดได้เป็นอย่างดี

มาถึงก็สะดุดกับร้านที่หน้าตาแปลกๆค่ะ ตอนแรกก็งง อะไรคือไข่กระโหลกเห็นมีเป้าคล้ายๆขนมครกบ้านเรา แต่ก็คงไม่ใช่เพราะว่ามันใหญ่จริงๆ เลยลองแวะไปสอบถามคือเป็นขนมที่ทำมาจากไข่กับข้าวแล้วก็ชีส มีหน้าและไส้ให้เลือกหลากหลาย ของเราสั่งไส้แฮมกับชีสค่ะ ซีฟู๊ดก็มีนะแต่พี่คนขายบอกต้องรอนานหน่อยเลยเอาแบบไส้ง่ายๆก่อนแบบว่าอยากลองทานแล้วค่ะ -3-

นี่ไงหน้าตาของขนมไข่กระโหลก แต่เราใส่ซอสแบบจัดเต็มเลยมองไม่ค่อยออก ลักษณะก็คือไข่ที่ตีรวมผสมกับข้าวแล้วเอาเข้าเป้าเพื่อให้สุขและออกมาเป็นก้อนกลมๆหอมน่ารับประทานมากๆ พอใส่มายองเนสกับซอสแล้วยิ่งเข้ากันที่ซู๊ดดดดดด

กล่องก็ใหญ่พอดูนะคะ พอเทียบกับขนาดตัวโมโจพอๆกันเลย เดินมาสักพักเริ่มลิ้นห้อยละเหนื่อยแล้วกั๊บผม อยากกลับที่พักแล้วอ่ะ ตลาดมันกว้างๆขาผมสั้นเดินไม่ทันครึ่งตลาดก็หอบละสำหรับชิวาวาตัวน้อย

นั่งพักอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามาทักทาย แต่ขอบอกก่อนนะว่าขนมในกล่องนั่นเจ้านายผมกินหมดนะครับผมไม่ได้กินเลย ขอบอก

สรุปขนมไข่กระโหลก รสชาติอร่อยถูกปากเพราะคล้ายๆกับการทานข้าวไข่เจียวประมาณนั้นแล้วใส่เครื่องปรุงตบท้ายด้วยซอสนานาชนิดตามแต่ที่เราชอบ ถ้าทานหมดกล่องก็อิ่มพอๆกับการทานข้าว 1 จานเลยล่ะค่ะ อิ่มละขอเดินทางต่อเลยนะคะ

สรุปโดยรวม
รสชาติ 7/10 ไม่แตกต่างจากจำพวกข้าวผัดไข่แต่ว่ามีหลากหลายไส้แล้วหน้าประกอบกับการรับประทานกับซอสจำพวกต่างๆยิ่งเข้ากั้นเข้ากัน
คุณภาพ 7/10 เพราะเป็นอาหารจำพวก Fast Food จึงเทียบกับอาหารขึ้นร้านไม่ค่อยได้ค่ะ
ความคุ้มค่า 8/10 ความอร่อยกับราคาที่แลกกันมานั้นก็ถือว่าไม่น่าเกลียด
บรรยากาศ 8/10 ถ้าเทียบกับว่าต้องเป็นร้านอาหารละก็คิดว่าต้องเป็นร้านที่ใหญ่มากๆเพราะเพียงซื้อมาแล้ว็เลือกมุมที่มีบรรยากาศเป็นตลาดน้ำค่ะ >.<

ก็อยากให้ได้ลองกะไข่กระโหลกรสชาติฟินๆกันเลยทีเดียว